วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ระวัง ปอดบวมหน้าฝน


ปอดบวมเป็นหนึ่งในโรคระบบทางเดินหายใจที่พบมากในช่วงหน้าฝน แต่ใครหลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงโรคธรรมดาโรคหนึ่งที่อยู่กับเรานาน แต่อันที่จริงแล้ว ปอดบวมถือเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยในช่วงฤดูฝนไปเป็นจำนวนมาก


เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ประธานชมรมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤติในเด็กแห่งประเทศไทย บอกว่า สภาพอากาศชื้นและเย็น จะช่วยเอื้ออำนวยให้เชื้อโรคต่าง ๆ มีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น ที่สำคัญยังพบว่า โรคปอดบวมเป็นโรคที่คอยผสมโรง และฉวยโอกาสจากผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ เยื่อบุโพรงจมูกและลำคอจะระคายเคืองและถูกทำลาย ทำให้เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว หลุดลงไปที่ปอด และอวัยวะสำคัญอื่น ๆ ซึ่งจะส่งผลให้อาการต่าง ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลายเท่า จนอาจจะทำให้เสียชีวิตได้


สาเหตุของโรคปอดบวม เกิดได้ทั้งจากการติดเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญเพราะนอกจากจะก่อให้เกิดปอดบวมรุนแรงยังสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆที่สำคัญและก่อให้เกิดโรคติดเชื้อรุนแรงได้ เช่นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบโรคติดเชื้อในกระแสเลือดและหูอักเสบ เป็นต้น


ผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปอดบวมได้แก่ เด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ แม้ว่าจะเป็นเด็กที่มีสุขภาพดีก็ตาม และผู้สูงอายุ ทั้งนี้จะยิ่งเสี่ยงสูงขึ้น หากเป็นผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคปอด โรคเบาหวาน และโรคเลือดซิกเคิลเซลล์ และในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ที่ตัดม้ามออก หรือม้ามทำงานไม่ปกติ ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น


ในเด็กเล็กซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคปอดบวมนั้น พ่อแม่ควรเฝ้าระวังและป้องกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการดูแลสุขภาพของลูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กเล็กยังไม่สามารถบอกกล่าวอาการเจ็บป่วยได้ด้วยตนเอง และบางครั้งมีโอกาสมีปอดบวมแทรกซ้อนได้อาการสำคัญคือ มีไข้ ไอมาก หายใจเร็วกว่า


ปกติ หอบ หรือหายใจลำบากจนซี่โครงบุ๋ม ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนว่าลูกอาจเป็นปอดบวม ควรรีบพาไปพบแพทย์


การป้องกันคือ ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ ล้างมือบ่อย ๆ ปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารก เช่น เด็กเล็กควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อให้มีภูมิต้านทานจากแม่ส่งผ่านไปลูกทางน้ำนม และการให้วัคซีน ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆหลายชนิด รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคปอดบวม-โรคไอพีดี และวัคซีนไข้หวัดใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น